ไม่อยากให้พลาด! กินเห็ดหลินจือ บางคนมีอาการ เช่น ง่วงนอน ฉี่บ่อย หรือ คัน การขับพิษที่ไม่ใช่ผลข้างเคียง หรือการแพ้ ข้อควรรู้ที่ไม่อันตราย แม้จะกินเห็ดหลินจือต่อเนื่องทุกวัน แต่เป็นปฏิกิริยาการกำจัดของเสีย(สารก่อพิษ)ที่สะสมในร่างกาย
สารก่อพิษ หรือ ท็อกซิน ( Toxin ) คือสารที่เป็นพิษ หรือที่อาจทำให้เกิดเป็นพิษขึ้นมาได้ที่มีอยู่ในร่างกายและมีอยู่ทั่วทุกหนทุกแห่ง อาหาร เช่น สารเร่งโต สารเร่งเนื้อแดง สารตะกั่วสารปรอท ป่นเปื้อนในอาหาร
สิ่งแวดล้อม เช่น มลพิษทางอากาศ เช่น ควันรถ จากท่อไอเสียสารตะกั่ว และสารปรอท ที่ป่นเปื้อนในควันรถ ความสมดุลในร่างกายที่นำไปสู่ความเสื่อมของร่างกาย ทำให้ขจัดไม่สมดุลอื่นๆ เช่น ยารักษาโรคต่างๆ
สารเหล่านี้ถ้าปล่อยให้มีการสะสมในร่างกายนอกจากจะทำให้ระบบต่างๆ ไม่สามารถทำงานเป็นปกติแล้ว ยังทำให้เกิดอาการเรื้อรังหลายๆ อย่างทำให้สิ้นเปลืองภูมิคุ้มกันและเซลล์เกิดการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นโรคต่างๆ ขึ้นได้
เห็ดหลินจือ การขับพิษที่ไม่ใช่อาการข้างเคียง
เห็ดหลินจือที่มีคุณสมบัติทางยา คือ เมื่อผู้ใช้เริ่มทานเห็ดหลินจือ ระยะแรกหากเป็นเห็ดหลินจือที่มีสารออกฤทธิ์ทางยาครบถ้วน บางรายอาจมีอาการ ท้องเสีย คอแห้ง หรือมีผื่นคัน แต่มักหายได้เอง ภายใน 2-7 วัน โดยการขับพิษ ที่มีลักษณะเฉพาะ คือ การเกิดแสดงอาการของโรคที่ฝังลึกภายในร่างกายออกมา
โรคเรื้อรัง เช่น มะเร็ง เบาหวาน ความดันโลหิต โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ ฝ้า กระ โรคเกี่ยวกับ ตับ ไต ความจำเสื่อม ฯลฯ
อาการตามหลักแพทย์แผนจีนหลังจากทานเห็ดหลินจือ ที่ไม่ใช่ผลข้างเคียง
ลักษณะและอาการต่างๆ ที่แสดงออกจากบริเวณใบหน้าได้
- ดวงตา มีสีแดง มีสารพิษในร่างกายสูงและตับกำลังทำลายสารพิษนั้นๆอยู่ ตาพร่ามัวมองไม่เห็น แสดงว่าตับกำลังปรับตัวเองอยู่ ดวงตากับเปลือกตาตึง แสดงถึงโรคทางจิตใจ,โรคเครียด
- จมูก จะเกี่ยวข้องกับโรคในระบบทางเดินหายใจ,โรคภูมิแพ้คัดจมูก, จาม น้ำมูกไหล แสดงถึงกระบวนการกำลังควบคุม เพื่อแก้การแพ้และร่างกายกำลังกำจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกายในระบบทางเดินหายใจ ถ้ามีอาการไอ บ่งบอกถึงร่างกายกำลังขจัดสิ่งแปลกปลอมที่เข้าสู่ระบบทางเดินหายใจ
- ลำคอ มีอาการคอแห้ง,เจ็บคอ,กระหายน้ำมาก แสดงถึงสภาวะที่ร่างกายกำลังขจัดสารพิษออกจากร่างกาย
- ริมฝีปาก แสดงถึงโรคในระบบย่อยอาหาร ริมฝีปากซีด เป็นการชี้บ่งถึงระบบย่อยอาหารบกพร่อง มีก๊าชในกระเพาะอาหาร ริมฝีปากแห้งและแตก บอกถึงการมีสารพิษจำนวนมากในกระเพาะอาหาร
- ปากและลิ้น จะแสดงถึงโรคในระบบการไหลเวียนของเลือดและโรคหัวใจ ลิ้นและเหงือกบวม ปวดมาก แสดงถึงการอุดตันในเส้นเลือด, ลิ้นหัวใจมีปัญหา ลิ้น เยื่อบุภายในช่องปาก และเหงือกมีแผลเปื่อย แสดงถึงสภาวะความเป็นกรดในเลือดสูงเกินควร
- หู จะแสดงถึงโรคไต หากมีอาการชาที่หู แสดงถึงกระบวนขจัดสารพิษออกจากไต
ลักษณะและอาการขับพิษ ที่แสดงออกทางผิวหนัง
- เหงื่อ มีรสเค็ม แสดงว่าร่างกายมีกรดยูริคสูง ถ้ามีกลิ่นเหม็นจะบอกถึงร่างกายขับสารพิษออกทางเหงื่อ
- ฝี ผื่น แสดงถึงการขับสารพิษที่เป็นไขมันออกทางผิวหนัง
- อาการคัน และผื่นที่ผิวหนัง แสดงถึงกระบวนการขับสารพิษผ่านทางผิวหนัง เนื่องจากมีการใช้ยาแผนปัจจุบันมากเกินควร
- ผิวผุพอง และมีน้ำเหลืองเยิ้ม แสดงถึงร่างกายกำลังขับถ่ายสารพิษที่ละลายน้ำได้
- ผมร่วง แสดงถึงการทำงานของไตไม่มีประสิทธิภาพ
ลักษณะและอาการต่างๆที่แสดงออกทางข้อต่อ มือและเท้า
- ปวดตามข้อต่อ และรู้สึกร้อน แสดงว่าการบาดเจ็บที่ข้อต่อหรือมีเกลือของยูริคตกค้างอยู่ในข้อต่อ ของมือและเท้า
- ปวดตามข้อต่อ และไม่รู้สึกร้อน แสดงว่าโรครูมาติสซึ่ม(Rheumatism)ไขข้ออักเสบ
- ปวดไหล่ แสดงถึงหลอดเลือดกำลังแข็งตัว การทำหน้าที่เผาผลาญอาหารไม่สมดุล
- อาการชาที่มือและเท้า แสดงถึงการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงปลายแขนปลายขาไม่ดี
- อาการชาที่มือและแขนซ้าย จะบ่งบอกถึงโรคหัวใจ
- อาการปวดหน้าเท้า แสดงถึงโรคไต ไตทำงานประสิทธิภาพต่ำ
- อาการคันระหว่างนิ้วเท้า แสดงถึงโรคเท้าเปื่อย
สามารถสังเกตุปฏิกริยาการขับพิษ จากอาการตามส่วนต่างๆ ของร่างกายดังนี้
- ปวดหรือวิงเวียนที่ด้านหน้าของศรีษะ จะบ่งบอกถึงโรคจิตประสาท
- ปวดหรือวิงเวียนที่ด้านหลังศรีษะส่วนบน จะบ่งชี้ถึงโรคความดันโลหิตสูง
- ปวดส่วนล่างบริเวณท้ายทอย แสดงถึงโรคความดันโลหิตต่ำ
- วิงเวียนหรือมึนงงทั่วศรีษะ จะแสดงถึงการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงสมองไม่ดี
- ปากและคอ อาเจียนในบางกรณี เป็นสัญญาณการขจัดพิษออกจากกระเพาะ
- การเป็นโรคหืด อาเจียนเป็นเลือดสีแดง เป็นสัญญาณการขจัดเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพจากลำคอ
- ปอด อาเจียนเป็นเลือดสีดำเป็นสัญญาณการขจัดเนื้อเยื่อที่เสื่อมสภาพจากกระเพาะโดยมักจะมีแผลเปื่อย
- ลิ้น หากมีอาการลิ้นเกร็งและแข็งจะแสดงถึงโรคหัวใจ
- น้ำลาย หากมีอาการน้ำลายข้นมาก ในบางกรณีจะเป็นกระบวนการขจัดสารพิษจากลำคอเนื้องอก จากการติดเชื้อหรือมะเร็ง
- ปัสสาวะ จะเกี่ยวพันกับโรคไต ฉี่บ่อย แสดงถึงการมีการขับถ่าย และขจัดของเสียออกทางไตมาก โดยมีคราบมันในปัสสาวะ บ่งบอกถึงมีไขมันเสียอยู่ในไต หรือถ้าปัสสาวะข้นเป็นสีน้ำตาล แสดงถึงการขับถ่ายสารพิษออกจากร่างกาย
- อุจจาระท้องเดิน ถ่ายท้อง ท้องเสีย เป็นการขจัดของเสีย และสารพิษจากลำไส้ใหญ่ ถ้าท้องผูกเป็นการขจัดสารพิษจากลำไส้เล็ก หรือบางคนอุจจาระมีเลือดสีแดง จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงโรคริดสีดวงทวาร แต่ถ้าอุจจาระมีเลือดสีดำ แสดงถึงโรคแผลในกระเพาะอาหาร
ประโยชน์จากสรรพคุณเห็ดหลินจือมีมากมาย แต่ผู้ใช้บางคนไม่เข้าใจ เมื่อกินเห็ดหลินจือ แล้วมีอาการดังกล่าวให้ลดปริมาณทานเห็ดหลินจือลงประมาณ 3-4 วัน อาการต่างๆ จะหายไป และถ้าให้ดียิ่งขึ้นควรรับทานร่วมกับวิตามินซีซึ่งจะทำให้อาการขับพิษมีอาการน้อยลง ร่างกายฟื้นตัวเร็ว และเกิดอาการข้างเคียงน้อยลง
ดังนั้นผู้ทานเห็ดหลินจือ จึงไม่ควรตกใจและต้องทำความเข้าใจว่าอาการต่างๆที่เกิดขึ้นว่ามิใช่อาการแพ้หรือผลข้างเคียง (Side Effect) ของเห็ดหลินจือ ไม่ควรหยุดทาน เมื่ออาการดีขึ้นจึงค่อยกลับมากินในปริมาณปกติที่แนะนำ จากงานวิจัยพบว่าสมุนไพรเห็ดหลินจือ แม้จะทานต่อเนื่องทุกวันไม่ทำให้เกิดผลเสีย หรืออันตราย แต่กลับทำให้สุขภาพดีขึ้น
สำหรับผู้ที่ทานยาแผนปัจจุบันอยู่ไม่ควรหยุดยาของแพทย์ แต่ควรทานเห็ดหลินจือหลังจากทานยาแผนปัจจุบันไปแล้วประมาณ 1 ช.ม ซึ่งจะเป็นผลดีต่อร่างกายในการบำบัดโรคตามแนวทางทฤษฎี “การแพทย์ผสมผสาน”
^-^ กดปุ่มแชร์ในโซเชียลมีเดีย แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้เพื่อนๆ เพื่อคนไทยมีสุขภาพที่ดี!! ^-^