สมุนไพรเห็ดหลินจือกับวิธีการทำให้สุขภาพแข็งแรงด้วยตัวเอง เคล็ดลับดูแลร่างกาย สรรพคุณป้องกัน ยับยั้ง รักษา ฟื้นฟูระดับเซลล์ เห็ดหลินจือคุณภาพที่มากยิ่งกว่าโสม!
โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ โรคมะเร็ง เบาหวาน ปัญหาภูมิแพ้ โรคเกาต์ และสารพัดโรคร้ายที่เกิดจากการใช้ชีวิตที่ขาดสมดุล จากความเครียดในการทำงาน ปัญหาครอบครัว สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยมลพิษ คอยบั่นทอนสุขภาพร่างกายให้ถดถอยลงไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา โดยที่ตัวเองก็ไม่เคยหันมาใส่ใจสุขภาพ ดูแลอาหารการกิน ออกกำลังกาย หรือผ่อนคลายความตึงเครียด
แน่นอนทางออกที่ดีที่สุดคือ การหันมาใส่ใจดูแลสุขภาพ ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และหมั่นออกกำลังกายนั่นเอง เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายที่เสื่อมโทรมมานานให้กลับมามีสุขภาพแข็งแรงดี แต่สำหรับคนที่ไม่มีเวลากับสภาวะที่ต้องรีบเร่ง “เห็ดหลินจือ” เคล็ดลับสุขภาพที่ไม่ควรมองข้าม!! วิธีที่ง่ายและสะดวกด้วยตัวเอง
เห็ดหลินจือ มีชื่อพื้นเมืองหลายชื่อ เช่น เห็ดหมื่นปี เห็ดอมตะ เห็ดจวักงู ชื่ออังกฤษ คือ Holy mushroom แปลว่า เห็ดศักดิ์สิทธิ์ หรือ Lacquered mushroom แปลว่าเห็ดที่มีผิวเหมือนทาแลกเกอร์ ในประเทศจีน เรียกเห็ดนี้ว่า Lingzhi ส่วนในญี่ปุ่น เรียกว่า Reishi เป็นเห็ดสมุนไพรที่มีสรรพคุณจากสารออกฤทธิ์ต่อสุขภาพร่างกาย ของมนุษย์อย่างน่าอัศจรรย์ ด้วยคุณประโยชน์ของสารอาหาร ที่มีอยู่มากมายในเห็ดหลินจือสามารถช่วยป้องกัน บรรเทา และรักษาอาการเจ็บป่วยได้ เห็ดหลินจือจึงไม่ใช่เพียงแค่อาหารแต่ด้วยคุณค่ามหาศาล จึงสามารถถือว่า “เห็ดหลินจือ” เป็นยาชั้นดีได้เลยทีเดียว แต่ประโยชน์ทางยาที่ดีที่สุดคือสายพันธุ์สีแดง หรือเรียกกันว่า เห็ดหลินจือแดง
เหตุผลที่เห็ดหลินจือสรรพคุณยิ่งกว่าโสม
- เห็ดหลินจือไม่เป็นพิษ สามารถรับประทานได้ทุกวัน โดยไม่เกิดผลกระทบหรือ เกิดโทษที่ไม่มีผลข้างเคียงใดๆต่อร่างกาย
- เมื่อรับประทานเห็ดหลินจือ สม่ำเสมอ ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และอวัยวะต่างๆ ทำงานได้อย่างเป็นปกติ
- เห็ดหลินจือ ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ให้กับร่างกาย ทำให้การทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เป็นไปอย่างปกติ ทำให้ไม่เจ็บป่วยได้ง่าย
สารออกฤทธ์สำคัญที่อยู่ในเห็ดหลินจือ ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย มีหน้าที่ในการรักษา ป้องกัน และบรรเทาโรค ได้แก่
- สารกลุ่มโพลีแซ็กคาไรด์(Polysaccharide) ซึ่งมีสรรพคุณ ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกัน โดยจะกระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดขาว ชนิดต่างๆ ให้ทำงานมีประสิทธิภาพดีขึ้น ทำให้สรรพคุณในการป้องกันเชื้อไวรัส และแบคทีเรีย ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ อาทิเช่น เซลล์มะเร็ง
- สารกลุ่มไตรเทอร์ปีน(Triterpene ) มีรสชาติขม มีสรรพคุณในการช่วยลดความเครียดและยับยั้ง การหลั่งสารฮิสตามีนของเซลล์จึงช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ เพิ่มการใช้ออกซิเจนของเซลล์ในร่างกาย และช่วยเพิ่มการเผาผลาญน้ำตาลกลูโคสในร่างกาย ยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอลส่วนเกินกระตุ้นการทำงานของตับให้ดียิ่งขึ้น
- สารกลุ่มนิวคลีโอไทด์(Nucleotide) เช่น Adenosine สารอะดีโนซีน ซึ่งมีฤทธิ์ขยายหลอดเลือดและกระตุ้นการเต้นของหัวใจ และพบว่าระดับสารอะดีโนซีนจะสูงขึ้นในกรณีที่เราเกิดอาการบาดเจ็บที่สมองหรือไขสันหลัง หรือเมื่อเกิดอาการหน้ามืดเป็นลม และพบว่าจะช่วยให้แผลสมานเร็วขึ้น ลดการอักเสบ ของ กลุ่มโรค SLE โรคข้อ Rheumatoid ซึ่งเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับภูมิคุ้มกันผิดปกติ
- สารออแกนิกเยอร์มาเนียม(Organic Germanium) เป็นแร่ธาตุ ที่ร่างกายดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ช่วยในการควบคุมและปรับ สมดุลของร่างกาย เพิ่มอัตราการไหลเวียนของเลือด และเพิ่มการนำออกซิเจนไปสู่เซลล์
- กรดอะมิโน มากมายช่วยชะลอความแก่ป้องกันโรคกระดูกพรุน สมานแผลให้หายเร็ว ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด บำรุงสมองให้ความจำดีขึ้น บรรเทาอาการอ่อนเพลีย
- กรดแกมมาไลโนเลนิก(Gamma Linolenic acid-GLA) ระงับอาการปวดประจำเดือน ปวดไมเกรน ช่วยบรรเทาอาการผื่นคันที่ เกิดจากโรคภูมิแพ้ ลดอาการปวดข้อ ปวดกระดูก
เห็ดหลินจือสรรพคุณ ประโยชน์รักษาโรค
มะเร็ง คือ กลุ่มของโรคที่เกิดเนื่องจากเซลล์ของร่างกายมีความผิดปกติ ที่ DNA หรือสารพันธุกรรม ส่งผลให้เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการแบ่งตัวเพื่อเพิ่มจำนวนเซลล์รวดเร็วและมากกว่าปกติ ดังนั้นจึงอาจทำให้เกิดก้อนเนื้อผิดปกติ และในที่สุดก็จะทำให้เกิดการตายของเซลล์ในก้อนเนื้อนั้น เนื่องจากขาดเลือดไปเลี้ยง เพราะการเจริญเติบโตของหลอดเลือด ถ้าเซลล์พวกนี้เกิดอยู่ในอวัยวะใดก็จะเรียกชื่อมะเร็งตามอวัยวะนั้น เช่น มะเร็งปอด มะเร็งสมอง มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง และมะเร็งผิวหนัง เป็นต้น
การแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง มีได้ 4 วิธี คือ
- ทางกระแสเลือด โดยหลุดเข้ากระแสเลือด แล้วไปเจริญในอวัยวะต่างๆ เช่น ปอด ตับ กระดูก สมอง เป็นต้น
- ทางกระแสน้ำเหลือง
- การฝังตัวของเซลล์มะเร็ง
- การแพร่กระจาย แทรกตัวไปตามพื้นผิวภายในอวัยวะ ที่เป็นมะเร็งและอวัยวะ หรือเนื้อเยื่อ ที่อยู่บริเวณข้างเคียง สาเหตุที่แท้จริงของโรคมะเร็ง ในปัจจุบันนั้นยังไม่สามารถที่จะระบุได้อย่างแน่ชัด
อาการบ่งชี้ว่า อาจเป็นมะเร็งมี 7 อาการเบื้องต้น ได้แก่
- มีอาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย หรือ กลืนลำบาก มีอาการเบื่ออาหาร ผอมลง น้ำหนักลด
- ไฝ หรือ หูด ที่เปลี่ยนรูปร่าง สี เช่น มีสีดำขึ้น หรือโตเร็ว อย่างเห็นได้ชัด แตกเป็นแผล
- การขับถ่าย ผิดไปจากเดิม เช่นท้องผูก สลับท้องเสีย
- เป็นแผลเรื้อรังไม่หาย
- มีเลือดหรือสารเหลว ออกมาจากที่ใดก็ตามที่ผิดปกติ
- เต้านมหรือที่อื่นๆ ปรากฏมีก้อน หรือตุ่มขึ้นมา
- มีเสียงแหบ หรือไอเรื้อรัง
เห็ดหลินจือกับโรคมะเร็ง
เห็ดหลินจือ สามารถต้านทานโรคมะเร็งได้ดี เพราะในเห็ดหลินจือมีสารโพลีแซ็กคาไรด์(Polysaccharide) ซึ่งจัดเป็นสารสำคัญทางเภสัชวิทยาที่ใช้ในการรักษาโรคมะเร็งสารโพลีแซ็กคาไรด์ มีคุณสมบัติในการต่อต้านมะเร็ง ช่วยปรับระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ และกำจัดอนุมูลอิสระออกจากร่างกาย เพราะว่าอนุมูลอิสระนั้นเป็นสาเหตุของการเกิดมะเร็ง
นอกจากคุณสมบัติที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว สารโพลีแซ็กคาไรด์ ยังช่วยเพิ่มปริมาณเม็ดเลือดขาวเพื่อกำจัดเชื้อโรคต่างๆ ในร่างกาย สารโพลีแซ็กคาไรด์ ตามปกติมีอยู่มากในอาหารจำพวก คาร์โบไฮเดรตแต่ก็พบในเห็ดหลินจือมากด้วยเช่นกัน
เห็ดหลินจือกับโรคตับ
โรคตับอักเสบเอ เกิดมาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบเอ ซึ่งติดต่อมาจากการรับประทานอาหาร หรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อนเชื้อนี้ จึงมักจะพบการระบาด ของโรคชนิดนี้ในกลุ่มคนที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เช่น หอพัก โรงเรียน ค่ายทหาร เป็นต้น หลังจากได้รับเชื้อประมาณ 4 สัปดาห์ ผู้ป่วยจะมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย มีไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดท้องด้านชายโครงขวา ซึ่งในผู้ใหญ่จะมีอาการหนักกว่าเด็ก นอกจากนั้น ยังมีอาการตาเหลืองตัวเหลือง และสำหรับผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วย จะมีภาวะเสี่ยงค่อนข้างสูง
เห็ดหลินจือช่วยบำรุงตับ – ฟื้นฟูการทำงานของตับกระตุ้นการ เกิดเซลล์ใหม่ แทนเซลล์ที่ตายไปและช่วยปรับภูมิคุ้มกัน และเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง รวมไปถึงเห็ดหลินจือ เป็นแอนติออกซแดนต์ที่ดี สามารถขจัดอนุมูลอิสระ เห็ดหลินจือมีประโยชน์ที่ช่วยรักษาโรคตับแข็งได้ เพราะเห็ดหลินจือ ช่วยทำให้ใยแผลเป็นที่ตับคลายตัว ไม่รัดเส้นเลือด และเนื้อเยื่อที่ตับ มีการศึกษา พบว่าภายในเห็ดหลินจือ มีสาระสำคัญทางยา ที่ใช้รักษาโรคตับ คือสารโพลีแซ็กคาไรด์ (Polysaccharides)
ปวดประจำเดือน
อาการปวดประจำเดือน(Dysmenorrhea) มักพบในเด็กสาวหรือ ผู้หญิงที่มีอายุยังน้อยมักมีอาการปวดบริเวณท้องน้อยอย่างรุนแรง ในช่วงวันแรกๆ ของการมีประจำเดือนบางครั้งมีอาการ ปวดมากเหมือนไม่สบาย มีไข้ ครั่นเนื้อครั่นตัว เต้านมคัด ตึง ปวดบริเวณบั้นเอวบางคนถึงกับเป็นลม ซึ่งอาการปวดนี้จะหายไปเองใน 1-2 วัน เพราะสาเหตุของการปวดประจำเดือน ส่วนใหญ่มาจาก กล้ามเนื้อปากมดลูกตึงเกินไป ในบางรายอาจพบว่าก่อน หรือระหว่างการมีประจำเดือนอาจมีอาการของโรคแทรกซ้อนขึ้น ไมเกรน ปวดศีรษะ เช่น อารามณ์หงุดหงิดได้ง่าย อาการก่อนมีประจำเดือน(Premenstrual tension) โดยอาการที่พบ อาทิเช่น บวมน้ำ น้ำหนักตัวเพิ่ม ข้อบวม รู้สึกอยากอาหาร มีสิวขึ้น อ่อนเพลีย หงุดหงิด ไม่มีสมาธิ นอนไม่หลับ อาการเหล่านี้ เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมนเพศหญิงระหว่างรอบเดือน บางครั้งเกิดจากการขาดฮอร์โมน โปรเจสเตอโรน(Progesterone)หรือขาดกรดไขมันจำเป็น เช่น กรดแกมมาลิโนลิก(Gamma Linoleic Acid-GLA) ขาดวิตามินบี 5 ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมรอบเดือน
เห็ดหลินจือกับอาการปวดประจำเดือน
แม้ว่าเห็ดหลินจือนั้นจะไม่มีฮอร์โมนเพศหญิง หรือฮอร์โมนเอสโตรเจน แต่เห็ดหลินจือสามารถกระตุ้นให้ร่างกายของคุณผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนเพิ่มขึ้น และจะปรับระบบการไหลเวียนของโลหิตให้เข้าสู่ภาวะปกติ และที่สำคัญในเห็ดหลินจือ นั้นยังมีกรดแกมมาลิโนเลนิก(Gamma Linolenic Acid-GLA) ที่ช่วยในการบรรเทาอาการปวดประจำเดือนได้เป็นอย่างดี
โรคริดสีดวงทวาร
สาเหตุของการเกิดโรคริดสีดวงทวาร คือ หลอดเลือดดำที่ได้เยื่อเมือกและผิวหนังในบริเวณทวารหนัก มีการปูดพองเป็นหัวขึ้นมา เนื่องจากมีภาวะความดันในหลอดเลือดดำสูงจากสาเหตุต่างๆ เช่น การเบ่งถ่ายอุจจาระ ท้องผูก การนั่งนานๆ ภาวะตั้งครรภ์ น้ำหนักมาก การกินอาหารที่มีกากใยน้อย ไอเรื้อรัง เป็นต้น
อาการส่วนมากจะมีอาการเลือดออกทางทวารหนักเป็นเลือดแดงสด เกิดขึ้นขณะถ่ายอุจจาระ ในระยะแรกจะมีเพียงการถ่ายเป็นเลือดโดยไม่มีอาการปวด แต่ในระยะหลังอาจมี อาการปวดมากขึ้น หรือมีก้อนโดยเฉพาะอย่างยิ่งก้อนที่ออกมาแล้วดันกลับเข้าไปไม่ได้จะปวดมาก ถ้ามีเลือดออกนานๆ อาจมีอาการของการขาดเลือด โลหิตจาง หน้ามืด เวียนศีรษะ โรคริดสีดวงทวารอาจทำให้มีอาการแทรกซ้อน คือทำให้ร่างกายของผู้ป่วยนั้นมีภาวะโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็ก
เห็ดหลินจือจะช่วยในการย่อยอาหาร และมีตัวยาที่จะทำให้แผลหรือตุ่ม บริเวณทวารหนักทั้งภายในและภายนอกหายไป และการขับถ่ายจะเป็นปกติ เมื่อกินเห็ดหลินจือแล้วสารนิวคลีโอไซด์(neucleoside) ในเห็ดหลินจือมีสารออกฤทธิ์สรรพคุณ ละลายลิ่มเลือด ที่อุดตัน ไม่ให้ลิ่มเลือดเกาะตัวง่ายเกินไปจนเกิดการอุดตันของเส้นเลือด จะช่วยแก้ไข อาการอึดอัด และแน่นหน้าอก ช่วยปรับสภาวะความดันในหลอดเลือด ทำให้อาการของโรคริดสีดวงทวารบรรเทาลง
โรคเกาต์
โรคเกาต์เป็นโรคที่เกิดจากระดับกรดยูริก(uric acid) ในเลือดสูงขึ้นทำให้เกิดการอักเสบของข้อและเอ็น นอกจากนั้นยังทำให้หน้าที่ของไตเสื่อม และเกิดโรคนิ่วที่ไตด้วย โรคเกาต์เป็นในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง 9 เท่า และมักเป็นวัยกลางคนขึ้นไป ส่วนผู้หญิงมักเป็นหลังจากหมดประจำเดือน ปวด บวม แดง ร้อน โดยเฉพาะบริเวณนิ้วหัวแม่เท้า เป็นข้อที่พบบ่อยที่สุด ในรายที่เป็นมานานอาจพบนิ่วทางเดินปัสสาวะมักปวดตอนกลางคืน อาการปวดจะเป็นมากขึ้นเรื่อยๆ มักจะมีปัจจัยกระตุ้น ได้แก่ การรับประทานอาหารที่มีสารพิวรีนสูง เช่น ตับ ไต เครื่องในสัตว์ ปลาซาร์ดีน น้ำสกัดจากเนื้อ น้ำต้มกระดูก เช่น น้ำก๋วยเตี๋ยว น้ำแกงจืด รวมทั้งพวกซุปสกัดชนิด ขวดทั้งหลาย แป้งสาลี แป้งข้าวเหนียว อาหารไขมันสูงจะยับยั้งการขับถ่ายกรดยูริกออกจากร่างกาย เพราะเมื่อกินพิวรีนเข้าไปร่างกายจะเปลี่ยนมันเป็นกรดยูริกนอกจากนั้นยังมี ปัจจัยอื่น คือ การดื่มแอลกอฮอล์ ความเครียด แต่ที่พบว่าอักเสบได้บ่อย ได้แก่ ข้อนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ และข้อศอก เรียงตามลำดับโดยจะบวม แดง กดเจ็บในรายที่เป็นเรื้อรังจะมีการรวมตัวของกรดยูริกเกิดเป็นก้อนที่ข้อเรียก Tophi
เห็ดหลินจือกับโรคเกาต์
เห็ดหลินจือ มีสารออแกนิกเยอร์มาเนียม(Organic Germanium) เป็นแร่ธาตุที่ร่างกายดูดซึมได้อย่างรวดเร็ว ช่วยในการควบคุมและปรับสมดุลของร่างกาย ให้เกิดความสมดุลระหว่างกรดและด่างในร่างกายอาจช่วยบรรเทาอาการของโรคเกาต์ และช่วยป้องกันโรคเกาต์ในกรณี ของคนที่ยังไม่เป็นได้
แต่จากงานวิจัยคณะเภสัชฯ ของ ม.มหิดลยังระบุอีกว่า สมุนไพรเห็ดหลินจือ ที่นิยมใช้ในดูแลสุขภาพร่างกาย และในกลุ่มที่มีปัญหาสุขภาพ เนื่องจากยังมีสารสำคัญอื่น ๆ ที่มีฤทธิ์ช่วยบำรุงสุขภาพ ต้านการอักเสบ ช่วยยับยั้งและรักษาอาการต่าง ๆ ของโรคได้มากมาย ซึ่งพบได้ทั้งในดอกเห็ดและสปอร์ แต่ส่วนใหญ่พบในสปอร์ และสปอร์เห็ดหลินจือที่กะเทาะผนังหุ้มจะมีสารสำคัญและฤทธิ์ทางยาดีกว่าสปอร์ที่ไม่กะเทาะผนังหุ้ม
ประเทศไทย “เห็ดหลินจือ” เกิดขึ้นจากแนวพระราชประสงค์ของล้นเกล้าฯ ที่ต้องการให้คนไทยสุขภาพแข็งแรง อ่านเพิ่มเติมการวิจัยพัฒนา… เห็ดหลินจือแดง G2 โครงการหลวงสวนจิตรลดาสู่ MG2 สายพันธุ์แผ่นดินไทย โครงการสวนเกษตรเมืองงาย จ.เชียงใหม่
หลายคนอาจสงสัยว่า นอกจากโรคดังกล่าวข้างต้น เห็ดหลินจือรักษาโรคอะไรได้บ้าง? และเหมาะกับใครบ้าง? เห็ดหลินจือเหมาะกับผู้ที่ต้องการบำรุงรักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และสามารถกินได้เป็นประจำโดยไม่มีผลเสีย หรือผลข้างเคียงต่อร่างกาย และเพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดควรทานเห็ดหลินจือแดงพร้อมกับวิตามินซีและดื่มน้ำตามมากๆ ทั้งนี้วิตามินซีจะช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมสารในเห็ดหลินจือได้ดีขึ้น…
^-^ กดปุ่มแชร์ในโซเชียลมีเดีย ถ้าบทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณ แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้เพื่อนๆ เพื่อคนไทยมีสุขภาพที่ดี!! ^-^