สุขภาพดี! เห็ดหลินจือ ชะลอวัยชรา คืนความหนุ่มสาว

เห็ดหลินจือประโยชน์ชะลอวัยไม่ให้แก่ ยังได้สุขภาพที่ดีแข็งแรง “ไม่ได้เจอกันตั้งนาน แต่หน้ายังเด็ก ยังสวย หรือหล่อเฟี้ยวเหมือนเดิมเลยนะ” คำทักที่ทำให้รู้สึกดีใจ หัวใจพองโต

ไม่ว่าจะกินเห็ดหลินจือในเวลา เช้า – กลางวัน – เย็น หรือ ก่อนนอน ต่างก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกัน ในการกินกลางวัน ร่างกายจะเคลื่อนไหวอยู่เสมอ เป็นการกระตุ้นให้เห็ดหลินจือทำงานรวดเร็วขึ้น รักษาอาการป่วยต่างๆ ได้ดีและได้ผลมากขึ้น เพราะการซึมซับจะรวดเร็ว ทำให้การรักษาอาการป่วยต่าง ๆ ได้ผลชัดเจนมากขึ้น

ปรกติร่างกายจะหลั่งสารฮอร์โมนชะลอความแก่ที่สำคัญ 3 ตัว (เอนโดร์ฟินส์ โกร๊ธฮอร์โมนและเมลาโทนิน)

ตอนกลางวัน ภายในร่างกายจะทำงานอย่างเป็นระบบ เป็นการทำงานที่ค่อนข้างหนัก ตลอดชั่วชีวิตของแต่ละคนไม่เคยหยุด อายุยิ่งมาก ความเสื่อมของอวัยวะภายในก็ยิ่งมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และความเสื่อมจะยิ่งมาก ยิ่งหนัก ถ้าเจ้าของร่างกายไม่ดูแล บำรุงใดๆ เลย อวัยวะภายในของคน จึงทรหดอดทนใช้งานอย่างหนักตลอดชั่วชีวิต จนกว่าจะเสื่อมโทรม หมดหนทางที่จะซ่อมแซมอีกต่อไป ก็คือกาลอวสานของร่างกาย

ร่างกาย “ไม่เคยหลับ” อย่างแท้จริง แต่ในขณะ “หลับ” อวัยวะและระบบต่างๆ ภายในร่างกายจะทำงานน้อยลง หลายๆ ระบบจะได้พัก แต่ไม่ได้หมายความว่าหยุดการทำงาน เพียงแต่ทำงานเบาลง น้อยลง ในระหว่างนี้หลายๆ ระบบของร่างกายจะเริ่มทำการซ่อมแซม ฟื้นฟู สิ่งที่สูญเสียไปในตอนกลางวันให้กลับมาแข็งแรงทำงานตามปรกติให้มากที่สุด เพื่อใช้ชีวิตและการดำรงชีวิตอย่างต่อเนื่องในวันรุ่งขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หมอสมัยใหม่จึงได้ทำการศึกษาและตรวจสอบหรือรักษาอาการป่วยคนเราเมื่อตอนหลับ ซึ่งระบบการตรวจสอบร่างกายตอนหลับที่เรียกว่า “สลิปปิ้ง มอนิเตอร์”

เห็ดหลินจือ ชะลอวัยชรา ไม่ให้แก่ สุขภาพดี

ความสำคัญ ตับ ชะลอวัยชรา เพื่อสุขภาพ

“ตับ” อวัยวะที่ทำงานหนัก ทั้งกลางวันและกลางคืน ที่ต้องรับสารอาหารที่กินเข้าไป ทำการเปลี่ยนแปลงทางเคมี สารอาหารที่ดีก็จะส่งไปสู่ส่วนต่างๆ ของร่างกาย กากหรือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ก็จะถูกส่งไปในลำไส้ใหญ่ เพื่อรอการกำจัดทิ้งโดยถ่ายเป็นอุจจาระออกไปจากร่างกาย ตับต้องคอยดูแลระบบเลือดให้ดีอยู่เสมอ หมอจีนถึงได้บอกว่า “ตับเป็นคลังแห่งเลือด”

แต่กลางคืน ระบบส่วนใหญ่จะเริ่มพักผ่อนและทำงานน้อยลง แต่ตับกลับต้องทำงานอีกต่อไปอย่างต่อเนื่อง เพื่อเปลี่ยนแปลงสารอาหารต่าง ๆ ที่เรากินเข้าไปในตอนเย็นให้เป็นรูปแบบอื่น นำไปเก็บไว้ในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย อย่างเช่น คาร์โบไฮเดรสที่กินเข้าไปในตอนกลางวันจะแปลงเป็นพลังงานไปใช้งานในร่างกาย แต่พอเป็นมื้อเย็น เมื่อตกกลางคืนร่างกายไม่ได้ใช้เป็นพลังงานมากนัก ก็จะเหลือมาก ตับก็จะแปลงให้เป็นแป้งแล้วแปลงต่อไปเป็นไขมันจากอาหารต่างๆ แล้วส่งไปเก็บไว้ในที่ต่างๆ ของร่างกาย (สมัยนี้มีการรณรงค์ไม่ควรกินมื้อเย็นหรือมื้อค่ำหนัก และควรจะออกกำลังกายตอนเย็นหรือค่ำเป็นดีกว่าตอนเช้า เพื่อไม่ให้ตับต้องทำงานหนัก) ถ้าตับทำงานหนัก จะทำให้เกิดการเจ็บป่วยได้ง่ายและน้ำหนักเพิ่มได้รวดเร็วอีกด้วย

ผลกระทบที่นอกจากอาการเจ็บป่วยแล้ว อาการผิวหนังเหี่ยวย่นก็เป็นผลตามมาให้เห็นอย่างชัดเจน จึงมักจะเห็นได้ชัดตอนเวลาป่วย หรือใครก็ตามที่ป่วยหนัก ดูแล้วทำไมถึง “แก่จัง” ก็เป็นผลมาจากตับ

เมื่อร่างกายมีปัญหา การหลั่งของฮอร์โมนสามตัวก็จะเกิดปัญหาขึ้น ได้แก่ สารเอนโดร์ฟินส์ (Endorphins) หรือที่เรียกกันว่า “สารแห่งความสุข” โดยสารตัวนี้ จะหลั่งเมื่อเรามีความสุข เมื่อเราออกกำลังกายอย่างน้อยครึ่งชั่วโมงขึ้นไป ตอนเราหัวเราะตอนเรามีความสุข ตอนเราอารมณ์เบิกบาน และหรือตอนเราหลับลึก

แต่เมื่อร่างกายทำงานโอเว่อร์โหลด เครียด โกรธ ซึมเศร้า ทุกข์หนัก การหลั่งของสารนี้ก็ลดลง แต่จะกลายเป็นการหลั่งของสารอะดรีนาลีน (Adrenaline) แทน ซึ่งเราเรียกว่า สารแห่งความทุกข์ สารแห่งความเครียด สารแห่งความอึดอัด

สารที่ถ้าขาดมันแล้วเราจะรู้สึก ทำให้เรา “แก่เร็ว” คือ สารโกร๊ธฮอร์โมน (Gowth Hormone) ที่หลั่งได้มากในตอนเป็นเด็กเป็นหนุ่มเป็นสาว แต่ในวัยหลัง 40-60 ไปแล้ว ร่างกายจะหลั่งสารนี้ได้น้อยลงอย่างมาก อายุยิ่งมากก็ยิ่งน้อย จึงจำเป็นต้องอาศัย การออกกำลังกายอย่างเต็มที่ หรือไม่ก็ “หลับลึก” “หลับสนิท” สารแห่งความเป็นหนุ่มเป็นสาว หรือสารแห่งการเจริญเติบโตนี้ถึงจะหลั่งได้ดีขึ้นบ้าง

สารอีกตัวที่สำคัญคือ เมลาโทนิน(Melatonin) ที่มักเรียกกันว่า นาฬิกาชีวภาพ เป็นสารที่ทำให้รู้ว่า กลางวัน กลางคืน รู้ว่า เช้า เที่ยง สาย บ่าย เย็น และที่สำคัญ สารตัวนี้คือสารที่ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า แต่สารตัวนี้จะหลั่งเต็มที่ตอนประมาณเที่ยงคืนตอนที่เรา “หลับสนิท” (ถ้าไม่หลับ ก็ไม่หลั่ง หลับไม่สนิทก็ไม่หลั่ง) แล้วจะลดลงไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเช้า เมื่อสารตัวนี้หลั่ง ทำให้เรากระปรี้กระเปร่า และคือที่มาของความสำคัญทำให้เกิดการชะลอความแก่ หรือวัยชรา

ชะลอวัยชรา สุขภาพดีด้วยเห็ดหลินจือ

เมื่อกินเห็ดหลินจือ ในช่วงเย็นก่อนนอน จะเข้าไปช่วยการทำงานของตับ ทำให้ตับไม่ต้องทำงานหนักขึ้น ช่วยเร่งการเผาผลาญสารอาหารไม่ให้ตกค้างในตับมากเกินไป จึงทำให้ตับทำงานน้อยลง ทำให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันเมื่อคนเราได้หลับสนิท หลับลึก ร่างกายก็จะหลั่งฮอร์โมนสามตัวที่กล่าวไว้คือ เอนโดร์ฟินส์ โกร๊ธฮอร์โมนและเมลาโทนิน

  • เมื่อสารแห่งความสุขได้หลั่ง ทำให้เกิดอารมณ์อันสุนทรี มีความสุข จิตใจโล่งสบาย สีหน้า ใบหน้าก็จะสดชื่น เมื่อมีความสดชื่น ทุกอย่างก็เลยสดใส มีน้ำมีนวล ทำให้ดูเหมือนเป็นหนุ่มเป็นสาว
  • การหลั่งของสาร โกร๊ธฮอร์โมน สารที่คืนความเป็นหนุ่มเป็นสาว ก็ทำให้ดูอ่อนวัย เหมือนเป็นหนุ่มเป็นสาวมากขึ้น อ่อนวัยกว่าอายุจริง
  • เมื่อมีสารแห่งความสุข การหลับลึกก็ย่อมทำให้เกิดการหลั่งของสารเมลาโทนิน (แต่ต้องหมายถึงนอนก่อนเที่ยงคืน) มีการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในร่างกายที่ทำให้ชะลอความแก่ คืนความเป็นหนุ่มเป็นสาว

ประโยชน์เห็ดหลินจือจากสรรพคุณ ไม่ใช่เพียงแค่ปรับระบบในร่างกายให้หลับง่ายขึ้น หลับลึกขึ้น ทำให้ร่างกายมีการหลั่งของสารสำคัญดังกล่าวให้เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น สารสำคัญต่างๆ ในเห็ดหลินจือจะเข้าไปฟื้นฟูเซลล์ต่างๆ ให้มีความแข็งแรง มีประสิทธิภาพในการทำงานที่ดีขึ้น เมื่ออวัยวะภายในทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ย่อมส่งผลทำให้การชะลอความแก่ได้

มีงานวิจัยพบว่า เห็ดหลินจือส่วนสปอร์ จะมีสารสำคัญทาง “ยา” ที่สูงกว่าส่วนดอก หรือ ส่วนอื่นๆ สามารถทานต่อเนื่องโดยไม่มีอันตรายต่อ ตับและไต เหมาะกับผู้รักษ์สุขภาพ

วโรยา สปอร์เห็ดหลินจือ MG2 เมืองงาย สมุนไพรสรรพคุณสุขภาพ

เห็ดหลินจือยังมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูเซลล์ผิวหนังให้แข็งแรง สร้างเซลล์ผิวใหม่ที่มีความสดใส มีน้ำมีนวล ก็ยิ่งทำให้ดูอ่อนกว่าวัยเพิ่มมากขึ้น มีอายุวัฒนะ ชะลอวัยชรา คืนความเป็นหนุ่มเป็นสาว! ยังได้สุขภาพที่ดี

^-^ กดปุ่มแชร์ในโซเชียลมีเดีย แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้เพื่อนๆ เพื่อคนไทยมีสุขภาพที่ดี!! ^-^