อันตราย โทษหรือผลข้างเคียงหรือเปล่า? กินเห็ดหลินจือแล้วมีอาการแพ้ ง่วงนอน คัน ฉี่บ่อย แต่เป็นผลจากสารสำคัญจากเห็ดหลินจือทำปฏิกิริยากับสารพิษที่ตกค้างในร่างกายที่อาจสะสมมานาน
สมุนไพร “เห็ดหลินจือ” นอกจากสรรพคุณเด่นที่มีฤทธิ์ทางยาในการบำรุงร่างกาย และช่วยบำบัดรักษาอาการของโรคต่างๆ ได้เป็นอย่างดีแล้ว ตามตำรับการแพทย์จีนโบราณ เห็ดหลินจือยังช่วยขับสารพิษ กำจัดสารพิษในเลือด ขับโรคภัย ล้างสารพิษ รวมถึงกำจัดของเสีย สิ่งแปลกปลอมที่ตกค้างออกจากร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นการขับเชื้อโรค เชื้อไวรัส สารเคมีปนเปื้อน นิ่ว เลือดคั่ง เนื้องอก ได้อีกด้วย โดยพิษเชื้อโรคต่างๆ จะถูกขับถ่ายทางทวารต่างๆ ของร่างกายในรูปแบบของ ปัสสาวะ อุจจาระ เหงื่อตามผิวหนัง ประจำเดือนของผู้หญิง ฯลฯ
![]()
ต้องการสรรพคุณจากเห็ดหลินจือให้ได้ประโยชน์สูงสุด! คุ้มค่าเงิน! ปลอดภัยต่อร่างกาย “วโรยา” สปอร์เห็ดหลินจือ MG2 เห็ดหลินจือที่มีดอกใหญ่ หนา และมีสปอร์มาก ได้รับเอกสารรับรองการเพาะปลูก(GAP) จากกรมวิชาการเกษตร ในการดูแลพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ อ่านต่อ...10 เหตุผล ทำไม? ต้อง “วโรยา” สปอร์เห็ดหลินจือ
ทานเห็ดหลินจือ มีผลข้างเคียง อันตรายหรือไม่?
จากผลการทดลองและวิจัยทางวิทยาศาสตร์และทางการแพทย์ ทั้งในและต่างประเทศที่รับประกันความปลอดภัยว่า การกินเห็ดหลินจืออย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน พบว่าเห็ดหลินจือไม่มีพิษ อันตรายหรือผลข้างเคียงต่อร่างกายแต่อย่างใด แต่บางคนที่หลังจากกินเห็ดหลินจือในระยะแรกอาจจะมีอาการตอบรับบางอย่าง เหมือนอาการแพ้ เช่น วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปากแห้ง ท้องผูกหรือท้องเสีย ง่วงนอน คัน ฉี่บ่อย ท้องอืด ปวดท้อง ปวดหัว ซึ่งเป็นอาการที่สารอาหารในเห็ดหลินจือทำปฏิกิริยากับสารพิษที่ตกค้างในร่างกาย
หากมีอาการดังกล่าวให้ลดปริมาณการรับประทานเห็ดหลินจือลงประมาณ 3-4 วัน อาการต่างๆ จะหายไป ควรรับประทานร่วมกับวิตามินซีซึ่งจะทำให้อาการตอบรับมีอาการน้อยลง ร่างกายฟื้นตัวเร็ว และเกิดอาการข้างเคียงน้อยลง ดังนั้นผู้ทานเห็ดหลินจือ จึงไม่ควรตกใจและต้องทำความเข้าใจว่าอาการต่างๆที่เกิดขึ้นว่ามิใช่อาการแพ้หรือผลข้างเคียง (Side Effect) ของเห็ดหลินจือ ไม่ควรหยุดทาน เมื่ออาการดีขึ้นจึงค่อยกลับมากินในปริมาณปกติ
สำหรับผู้ที่ทานยาแผนปัจจุบันอยู่ไม่ควรหยุดยาของแพทย์ แต่ควรทานเห็ดหลินจือหลังจากทานยาแผนปัจจุบันไปแล้วประมาณ 1 ช.ม ซึ่งจะเป็นผลดีต่อร่างกายในการบำบัดโรคตามแนวทางทฤษฎี “การแพทย์ผสมผสาน”
อ่านต่อ >> วิธีดูแลสุขภาพ ประโยชน์เห็ดหลินจือ ไม่มีผลข้างเคียง ช่วยป้องกันรักษาสารพัดโรค ให้ร่างกายแข็งแรง
ซึ่งไม่ได้น่ากลัวและยังสามารถจะกินเห็ดหลินจือต่อไปได้อย่างปกติด้วย เนื่องจากร่างกายแต่ละคนมีโรคและการตอบสนองต่อตัวยาในเห็ดหลินจือแตกต่างกัน จึงอาจทำให้เกิดอาการผิดปกติดังต่อไปขึ้นได้
16 อาการจากผลข้างเคียงของเห็ดหลินจือ
ร่างกายจะแสดงอาการขับพิษของเห็ดหลินจือออกมาในรูปแบบต่างๆ ดังนี้
- มีอาการปวดกลาง ศรีษะ ถึงท้ายทอย ร่วมกับอาการมึน – ความดันต่ำ ขาดสารอาหาร ระบบเลือดหล่อเลี้ยงสมองไม่ดี
- มีขี้ตาออกเป็นก้อน – สภาวะตับเสื่อม ทำงานขับพิษได้ไม่ดี
- ปวดขมับ มึนท้ายทอย อาจมีเพียง อาการเดียว หรือทั้ง 2 อาการพร้อมกัน – ความดันโลหิตสูง
- มึนทั้งหัว พร้อมกับวิงเวียนศีรษะด้วย – ความดันสูงมีไขมันในเส้นเลือดสูง
- ปวดข้อส่วนบน หรือข้อนิ้ว – โรครูมาตอยท์
- น้ำตาไหล เจ็บไหล่ซ้ายมีอาการเจ็บหน้าอกร่วมด้วย – สภาวะปอดเสื่อม ระบบหายใจไม่ดี
- ปวดไหล่ขวา มีขี้ตาออก – สภาวะปอดเสื่อม
- น้ำมูกใสๆไหลตลอดประมาณ 3-5 วัน – เป็นภูมิแพ้, โรคไซนัส, ทางเดินหายใจอักเสบ
- หายใจถี่มาก ใจสั่น – มีสภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
- จุกเสียดลิ้นปี่ หน้าอก – กระเพาะอาหาร, ลำไส้เล็กอักเสบ ระบบดูดซึมไม่ดี
- จุกด้านหลัง,ท้องอืด,อึดอัด – ริดสีดวงทวาร การทำงานของระบบขับถ่ายและลำไส้ใหญ่ไม่ดี
- ปวดหัวเหน่า – มดลูก กระเพาะปัสสาวะ ต่อมลูกหมากเสื่อม
- เสมหะมาก คอแห้งผาก – ระบบหลอดลม, ทางเดินหายใจ มีความสกปรก อุดตัน
- ปวดสะโพก เข่า ข้อเท้า อย่างมาก – สภาวะกรดยูริคสูง โรคเก๊าท์
- ปวดร้อนร่างกายท่อนบน ร้อนตัววูบวาบ – ระบบหมุนเวียนของโลหิตไม่ดี
- ปวดเอว – เป็นโรคไต, ระบบขับถ่ายของเสียไม่ดี
![]()
เห็ดหลินจือสุดยอดสมุนไพรที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ ซึ่งในทางการแพทย์มีการวิจัยทดสอบสรรพคุณของเห็ดหลินจือจนได้ผลยืนยันว่าช่วยบำบัดรักษาโรคได้หลายชนิด ทั้งโรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคไต โรคความดันโลหิต โรคหัวใจ ต้านการอักเสบ กำจัดและป้องกันอนุมูลอิสระ บำรุงเส้นประสาทไม่ให้เสื่อมเร็ว ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น ช่วยปรับสมดุลต่างๆ ภายในร่างกาย
ตัวอย่าง หลังกินเห็ดหลินจือไม่ใช่อาการข้างเคียง แต่เป็นผลตอบรับของสารออกฤทธิ์
– โรคเบาหวาน ช่วงระยะในการทานสปอร์เห็ดหลินจือแดงรักษาโรค น้ำตาลในเลือดอาจจะเพิ่มสูงขึ้นมากหรือน้อยก็แล้วแต่อาการของโรค ซึ่งเป็นกระบวนการในการรักษาของหลินจือจะไปดึงหรือขับน้ำตาลที่สะสมในเลือดและในเซลล์ของร่างกายออกมาแต่ผู้ป่วยจะไม่รู้สึอ่อนเพลีย และรู้สึกวูบ ผู้ป่วยไม่ต้องวิตกกังวลเช่นกัน เพราะอาการป่วยจะเริ่มดีขึ้น สดชื่นขึ้น ไม่เหนื่อย ไม่เพลีย และร่างกายจะแข็งแรงขึ้นตามลำดับ
-โรคตับและมะเร็งตับ ช่วงระยะกินเห็ดหลินจือรักษาโรคเมื่อไปตรวจจะพบว่าค่าเอนไซม์ตับอาจจะสูงขึ้นหรือ ท้องโตขึ้นอีกเล็กน้อยแต่ไม่แน่นท้อง และค่อยๆลดลงจนเป็นปกติ ผู้ป่วยไม่ควรวิตกกังวลเพราะอาการป่วย และสุขภาพของผู้ป่วยจะเริ่มดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เช่น รู้สึกสดชื่น ไม่เหนื่อย ไม่อ่อนเพลีย
จากงานวิจัยเกี่ยวกับสารในเห็ดหลินจือ พบว่า มีทั้งส่วนที่เป็นดอก ราก และสปอร์ แต่ในส่วนที่เป็น สปอร์ ทานแล้วจะมีผลการรักษา บำรุงสุขภาพ ที่เห็นผลลัพธ์ ที่ดีกว่าส่วนอื่น ไม่รู้ไปอ่าน… หรือผนังหุ้มแล้ว
จากประโยชน์ของเห็ดหลินจือ หลากหลายข้างต้น ดังนั้นหากคุณเพิ่งจะกินเห็ดหลินจือและร่างกายมีอาการข้างเคียงเหล่านี้เกิดขึ้น ก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเป็นผลมาจากการที่สารสำคัญจากเห็ดหลินจือกำลังช่วยขับสารพิษซึ่งอาจสะสมมานาน จนเมื่อร่างกายได้ฟื้นฟูและปรับสมดุลแล้ว ก็สามารถกินเห็ดหลินจือติดต่อกันได้โดยไม่มีโทษและผลข้างเคียงที่เป็นพิษต่อร่างกาย
^-^ กดปุ่มแชร์ในโซเชียลมีเดีย แบ่งปันเรื่องราวดีๆ ให้เพื่อนๆ เพื่อคนไทยมีสุขภาพที่ดี!! ^-^